ครั้งที่แล้วพาไปชมดินแดนโสมขาว (อ่านเพิ่ม : ส่อง 10 ข้อเกาหลีใต้ ที่คุณอาจไม่เคยรู้!) มาแล้ว คราวนี้ ไทยรัฐออนไลน์ จะพาไปส่องดินแดนหลังม่านเหล็ก หรือเกาหลีเหนือกันบ้าง เห็นเป็นประเทศที่หวงเนื้อหวงตัวแบบนี้ แต่เขาก็ไม่ได้ปิดประเทศขนาดนั้นนะ เพราะเขาเปิดให้นักท่องเที่ยวสามารถเข้าไป
เกาหลีเหนือ เป็นประเทศที่น่าสนใจไม่น้อย ด้วยว่าเป็นประเทศปิด ทำให้คนภายนอกอยากเข้าไปค้นหาเสน่ห์ที่ถูกซ่อนไว้ เอาเป็นว่าก่อนจะตัดสินใจไปเที่ยว มารู้จัก 10 ข้อน่ารู้ของถิ่นโสมแดงกันหน่อยดีกว่า
1. ที่ตั้ง
เกาหลีเหนือ เป็นประเทศในเอเชียตะวันออก กินพื้นที่ครึ่งเหนือของคาบสมุทรเกาหลี เมืองหลวงและนครใหญ่สุดคือ กรุงเปียงยาง มีเขตปลอดทหารเกาหลีเป็นเขตกันชนระหว่างเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ มีแม่น้ำอัมรก (ยาลู) และตูเมนเป็นพรมแดนระหว่างเกาหลีเหนือกับจีน
ธงชาติเกาหลีเหนือ
2. ประวัติศาสตร์การเมือง
คาบสมุทรเกาหลีในอดีตถูกปกครองโดยจักรวรรดิเกาหลี ยังไม่มีการแบ่งแยกกัน ต่อมาหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ยุติ เกาหลีเหนือปฏิเสธจะเข้าร่วมการเลือกตั้งที่สหประชาชาติอำนวยการ ซึ่งจัดที่กรุงโซลใน พ.ศ. 2491 และนำไปสู่การสถาปนารัฐบาลเกาหลีเหนือ แบ่งการปกครองเป็นอีกเขตหนึ่ง แยกกันเป็นเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้
ทั้งเกาหลีเหนือและใต้ต่างอ้างอธิปไตยเหนือคาบสมุทรเกาหลีทั้งหมด และนำไปสู่สงครามเกาหลีใน พ.ศ. 2493 ต่อมาได้ตกลงสงบศึกชั่วคราว พ.ศ. 2496 ยุติการสู้รบ อย่างไรก็ดีทั้งสองยังถือว่าอยู่ในภาวะสงครามอย่างเป็นทางการ เนื่องจากยังไม่มีการลงนามสนธิสัญญาสันติภาพ
เกาหลีเหนือเป็นรัฐพรรคการเมืองเดียวภายใต้สหแนวร่วม นำโดยพรรคแรงงานเกาหลี รัฐบาลของประเทศเจริญรอยตามอุดมการณ์จูเช (Juche) ว่าด้วยการพึ่งพาตนเอง ซึ่งเป็นอุดมการณ์ของรัฐอย่างเป็นทางการ พัฒนาโดยประธานาธิบดีของประเทศ คิม อิล ซอง
อนุสาวรีย์สำคัญ
3. รูปแบบการปกครอง
เกาหลีเหนือเป็นรัฐคอมมิวนิสต์ ภายใต้การปกครองโดยพรรคแรงงานแห่งเกาหลี ผู้นำสูงสุดคนปัจจุบันคือนายคิม จอง อึน ประเทศนี้ใช้นโยบายซอนกุน (Songon) หรือ "ทหารมาก่อน" เพื่อเสริมสร้างประเทศและรัฐบาล
องค์การต่างชาติหลายแห่งอธิบายเกาหลีเหนือว่าเป็นเผด็จการลัทธิสตาลินแบบเบ็ดเสร็จ เกาหลีเหนือเป็นชาติที่ติดอาวุธมากที่สุดของโลก โดยมีกำลังพลประจำการสำรองและกึ่งทหาร รวม 9,495,000 นาย ทั้งเป็นรัฐที่มีอาวุธนิวเคลียร์ไว้ในครอบครองและมีโครงการอวกาศที่ยังดำเนินอยู่
4. มี 9 จังหวัด
ประเทศเกาหลีเหนือ ประกอบด้วย 9 จังหวัด ได้แก่ คังว็อน ชากัง พย็องอันใต้ พย็องอันเหนือ รยังกัง ฮวังแฮใต้ ฮวังแฮเหนือ ฮัมกย็องใต้ และ ฮัมกย็องเหนือ
ในร้านอาหาร
5. ภาษาและวัฒนธรรม
เกาหลีเหนือและใต้ใช้ภาษาเหมือนกัน แต่เกาหลีเหนือจะมีสำเนียงที่ต่างไปเล็กน้อย ส่วนคำศัพท์ที่ใช้ ถ้าเป็นคำมาจากภาษาต่างประเทศ เกาหลีใต้จะนิยมพูดทับศัพท์ไปเลย แต่เกาหลีเหนือจะนิยมบัญญัติศัพท์ใหม่ขึ้นมาเป็นภาษเกาหลีแทน
เรื่องอาหารการกิน ชาวเกาหลีเหนือรับประทานข้าวเป็นอาหารหลักและนิยมรับประทานกิมจิ ชาวเกาหลีเหนือคลั่งไคล้กิมจิพอๆ กับเกาหลีใต้
สำหรับด้านวัฒนธรรม ในอดีตสมัยที่ยังเป็นอาณาจักร เกาหลีเหนือติดต่อกับจีนและญี่ปุ่น จึงทำให้มีวัฒนธรรมคล้ายๆ กับสองประเทศนี้ คือผู้ชายเป็นผู้นำครอบครัว ออกไปทำงานนอกบ้าน ผู้หญิงดูแลบ้าน แต่หลังจากการเปลี่ยนแปลงการปกครอง ชีวิตความเป็นอยู่ก็เปลี่ยนไป คือ ผู้หญิงชาวเกาหลีเหนือจะต้องออกไปทำงานนอกบ้าน ช่วยเพิ่มรายได้แก่ครอบครัว ทั้งนี้ได้รับอิทธิพลมาจากประเทศอื่นๆ ทั่วโลก
อาหารเกาหลีเหนือ เน้นข้าวเป็นจานหลัก และมีผักดอง
6. เปิดให้ท่องเที่ยวได้
ทางการเกาหลีเหนืออนุญาตให้นักท่องเที่ยวสามารถเข้ามาท่องเที่ยวได้ แต่ก็เปิดให้เที่ยวแค่บางพื้นที่ และมีกฎระเบียบที่ต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด สำหรับเมืองที่เปิดให้ท่องเที่ยวก็คือ เปียงยาง เมืองหลวงของประเทศ ซึ่งมีแหล่งท่องเที่ยวน่าสนใจ ได้แก่
- สถานีรถไฟใต้ดินกรุงเปียงยาง
เป็นสถานีรถไฟที่สวยติดอันดับ 1 ใน 10 ของโลก และมีความลึกกว่า 100 เมตร (ลึกที่สุดของโลก) เพื่อใช้เป็นแหล่งหลบภัย หากเกิดสงครามนิวเคลียร์ในอนาคต การลงบันไดเลื่อนเพื่อไปยังรถไฟใต้ดินนั้น อาจใช้เวลา 2-3 นาที สำหรับการให้บริการนั้น มี 2 สาย 17 สถานี การออกแบบตกแต่ง ทำได้สวยงามอลังการมากๆ ได้รับแรงบันดาลใจในการออกแบบมาจากรถไฟใต้ดินของกรุงมอสโก ประเทศรัสเซีย
สถานีรถไฟใต้ดินที่สวยติด 1 ใน 10 ของโลก
- สนามกีฬาเมย์เดย์
ที่นี่เป็นสนามกีฬาขนาดใหญ่ สามารถจุคนได้มากถึง 1.5 แสนคน ที่ผ่านมาทางการเคยใช้สถานที่แห่งนี้จัดการแสดงระดับชาติ เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของชาวเกาหลีเหนือ
- วังพระอาทิตย์กุมซูซาน
เป็นอาคารที่ใช้ประชุมสภาและทำเนียบของอดีตประธานาธิบดีคิม อิล ซอง พอถึงแก่อนิจกรรม ลูกชายที่เป็นประธานาธิบดีคนต่อมาก็เปลี่ยนที่นี่ให้เป็นสถานที่เก็บศพพ่อ พอลูกชายเสียชีวิต หลานที่เป็นประธานาธิบดีคนปัจจุบัน ก็เอาศพพ่อไปเก็บไว้ในสถานที่เดียวกับที่เก็บศพปู่ เป็นสถานที่สำคัญทางการเมืองของเกาหลีเหนือ การไปเยี่ยมชมที่นี่ นักท่องเที่ยวต้องเอาเสื้อเข้าในกางเกง แต่งตัวเรียบร้อย และวางทุกอย่างไว้ที่ทางเข้า (ยกเว้นแว่นตาดำ) และจะต้องเดินผ่านเครื่อง X-ray ด้วย
- ประติมากรรมค้อน เคียว พู่กัน
ประติมากรรมรูปคน 3 คนขนาดใหญ่ ที่เป็นตัวแทนของชาวเกาหลีเหนือ ได้แก่ คนถือฆ้อน (คนงาน) คนถือเคียว (ชาวนา) และคนถือพู่กัน (ผู้เชี่ยวชาญสาขาต่างๆ) แสดงให้เห็นถึงชนชั้นต่างๆ ที่ประกอบขึ้นเป็นประเทศเกาหลีเหนือ
7. การใช้เงินซื้อของ
เกาหลีเหนือใช้เงินสกุลวอนเหมือนเกาหลีใต้ แต่ชาวต่าวชาติ (นักท่องเที่ยว) ไม่ได้รับอนุญาตให้ใช้เงินวอน พวกเขาต้องใช้เงินสกุลต่างชาติ เช่น ดอลลาร์ ยูโร หรือหยวน ในการซื้อสินค้าที่นี่แทน ก่อนหน้านี้ นักท่องเที่ยวต่างชาติจะไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าไปซื้อสินค้าในห้างสรรพสินค้าของเกาหลีเหนือเสียด้วยซ้ำ แต่ในตอนนี้ กฎดังกล่าวเริ่มผ่อนปรนมากขึ้น ส่วนสินค้าขึ้นชื่อ คือ เบียร์แทดงกัง เบียร์ชั้นเลิศที่คอเบียร์ทั้งหลายไม่ควรพลาด
คนเกาหลีเหนือใช้เงินวอนเหมือนเกาหลีใต้ แต่ชาวต่างชาติแนะนำให้ใช้สกุลอื่น
8. เอามือถือเข้าประเทศได้
สมัยก่อน โทรศัพท์มือถือของนักท่องเที่ยวจะถูกยึดไว้บริเวณด่านตรวจคนเข้าเมือง แต่ตอนนี้นักท่องเที่ยวสามารถนำโทรศัพท์มือถือติดตัวมาได้แล้ว ซึ่งแนะนำว่าควรถอดซิมการ์ดเดิมออก แล้วมาซื้อซิมการ์ดได้ที่สนามบินหรือตามร้านค้าในเกาหลีเหนือแทน สำหรับค่าโทรนั้นค่อนข้างแพง ส่วนการใช้งานอินเตอร์เนตสามารถใช้ได้เพียงบางจุด ต้องสอบถามจากไกด์นำเที่ยว
9. เรื่องแปลกๆ ของโสมแดง
- ชาวเกาหลีเหนือทุกคนจะติดเข็มกลัดรูป คิม อิล ซอง หรือ คิม จอง อึล ไม่ว่าจะสวมชุดอะไรก็ตาม ซึ่งเข็มกลัดดังกล่าวไม่มีจำหน่ายในท้องตลาด แต่จะแจกให้ประชาชนในโอกาสพิเศษ ปัจจุบันชาวเกาหลีเหนือได้นำเข็มกลัดเหล่านี้ มอบให้กับนักท่องเที่ยวเพื่อเป็นของที่ระลึก
- ผู้หญิงเกาหลีเหนือชอบสวมรองเท้าส้นสูง น่าแปลก คือ ที่นี่เป็นประเทศที่วัฒนธรรมจากตะวันตกยังไม่แพร่หลาย แต่สาวๆ เกาหลีเหนือกลับนิยมรองเท้าส้นสูงเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะใส่ไปทำงานหรือในชีวิตประจำวัน ไม่เว้นแม้กระทั่งทหารหญิง
- ปั๊มน้ำมันแทบจะหาไม่ได้ การทำกสิกรรมส่วนใหญ่ยังใช้วัวควายและแรงงานจากคน ส่วนน้ำมันสำหรับรถยนต์นี้ ปั๊มน้ำมันจะถูกซ่อนไว้ โดยผู้โดยสารจะถูกขอให้ลงก่อนที่รถจะเข้าไปเติมน้ำมัน
วิวชายฝั่งของเกาหลีเหนือ
- ชายหาดในเกาหลีเหนือถูกล้อมด้วยรั้วไฟฟ้า ซึ่งป้องกันชาวเกาหลีเหนือว่ายน้ำหนี จุดนี้ห้ามถ่ายภาพ
- ภาพโฆษณาที่ขึ้นตามบิลบอร์ดส่วนใหญ่ เป็นโฆษณาชวนเชื่อ เช่น ภาพวาดนั้นแสดงถึงฮีโร่ คนชนชั้นแรงงาน รูปเด็กถืออาวุธ หรือภาพเด็กและประชาชนทำสัญลักษณ์กำมือขวาวางไว้ที่หน้าอกซ้าย เป็นต้น
- ในทุกๆ ที่จะเห็นข้อความกล่าวสดุดีท่านผู้นำ ตามตึก อาคาร หรือป้ายต่างๆ
- เป็นเรื่องปกติที่ในเมืองจะไม่มีรถ เพราะทุกคนเดินเท้ากันหมด บางทีการขนส่งมวลชนก็ใช้รถลาก แม้แต่รถบัสสองชั้น จักรยานนั้นไม่มีให้เห็นมากนักเนื่องจากราคาแพง
สภาพบ้านเมืองทั่วไป
10. ข้อควรระวัง
- อย่าชี้มือชี้ไม้ โดยเฉพาะเวลาไปเที่ยวในสถานที่สำคัญทางการเมือง ควรสำรวมกิริยา ถ้าไปเที่ยวในจุดชมวิวเมืองแถบชายแดน อย่าตะโกนหรือทำท่าทางไม่เหมาะสม นอกจากจะเพื่อความปลอดภัยของตัวคุณเองแล้ว ก็เป็นการให้เกียรติผู้คนและสถานที่
- เข้าแถวเสมอ ชาวเกาหลีเหนือจะถูกฝึกให้เข้าแถวตรงตั้งแต่ยังเด็ก ดังนั้นจะเห็นพวกเขายืนเรียงแถวตรงอย่างเป็นระเบียบ สิ่งเหล่านี้สะท้อนผ่านการใช้ชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นการต่อแถวเพื่อวางดอกไม้หน้าอนุสาวรีย์ การซื้อของตามร้านค้า หรือแม้กระทั่งการวิ่งจ็อกกิ้งในตอนเช้าก็ตาม
- อย่าข้ามถนนในที่ห้ามข้าม ในกรุงเปียงยางจะมีทางลอดข้ามถนนมากมาย โดยทุกคนจะเคารพและปฏิบัติตามกฏ แต่ถ้าคุณข้ามถนนในที่ห้ามข้าม คุณจะถูกปรับแม้ว่าถนนจะว่างแค่ไหนก็ตาม
- อย่าถ่ายรูปในจุดห้ามถ่าย การไปเที่ยวในย่านชุมชนเมืองของเกาหลีเหนือ ส่วนใหญ่เขาจะสร้างอาคารสูงคอยบังอาคารเตี้ยๆ เสมอ หรือบางแห่งก็สร้างกำแพงคอนกรีตบังไว้ สถานที่แบบนี้มักจะไม่อนุญาตให้ถ่าย ไกด์จะเตือนว่าห้ามถ่ายภาพ
ที่มาข้อมูล : th.wikipedia, en.wikipedia, pramool
หางานตามสาขาอาชีพ
JOBBKK.COM © สงวนลิขสิทธิ์ All Right Reserved
jobbkk มีเพียงเว็บเดียวเท่านั้น ไม่มีเว็บเครือข่าย โปรดอย่าหลงเชื่อผู้แอบอ้าง และหากผู้ใดแอบอ้าง ไม่ว่าทาง Email, โทรศัพท์, SMS หรือทางใดก็ตาม จะถูกดำเนินคดีตามที่กฎหมายบัญญัติไว้สูงสุด